การเลือกใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียให้เหมาะสมกับสภาพน้ำเสียเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของจุลินทรีย์และคุณสมบัติของน้ำเสียแต่ละประเภท เนื่องจากจุลินทรีย์ที่ใช้บำบัดน้ำเสียมีหลากหลายสายพันธุ์ จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียแต่ละชนิดมีความสามารถแตกต่างกันในการย่อยสลายสารอินทรีย์และสารปนเปื้อนในน้ำเสีย ดังนั้น การเลือกใช้จุลินทรีย์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ของกระบวนการบำบัดน้ำเสีย ลดค่าใช้จ่ายในการบำบัด จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียและป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการบำบัดที่ไม่สมบูรณ์ปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียคือประเภทของน้ำเสียที่ต้องการบำบัด น้ำเสียจากแหล่งต่างๆ มีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน เช่น น้ำเสียจากอุตสาหกรรมจะมีสารเคมีและโลหะหนักปะปนอยู่มากกว่าน้ำเสียจากครัวเรือนหรือน้ำเสียจากการเกษตร การเลือกจุลินทรีย์ที่สามารถย่อยสลายสารเคมีหรือโลหะหนักได้ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับน้ำเสียจากอุตสาหกรรม
กระบวนการบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพ วิธีการและขั้นตอนสำคัญ
ในขณะที่น้ำเสียจากครัวเรือนมักมีสารอินทรีย์ในปริมาณสูง เช่น ไขมันและเศษอาหาร จุลินทรีย์ที่สามารถย่อยสลายสารอินทรีย์และลดค่า BOD (Biochemical Oxygen Demand) ได้ดีจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือค่าพารามิเตอร์ของน้ำเสีย เช่น ค่า pH ค่าความเข้มข้นของออกซิเจนละลายน้ำ (DO) และอุณหภูมิ เนื่องจากจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียแต่ละชนิดมีสภาวะที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตและทำงาน หากค่า pH ของน้ำเสียมีความเป็นกรดหรือด่างสูงเกินไป อาจส่งผลให้จุลินทรีย์
ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรเลือกจุลินทรีย์ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของน้ำเสียที่ต้องการบำบัดได้ดี หรืออาจต้องปรับค่า pH ของน้ำเสียให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมก่อนการเติมจุลินทรีย์ นอกจากนี้ ค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในน้ำเสียก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ เพราะจุลินทรีย์บางชนิดต้องการออกซิเจนในการดำรงชีวิต (Aerobic) ขณะที่บางชนิดสามารถทำงานได้ในสภาวะไร้ออกซิเจน (Anaerobic) การเลือกใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียต้องพิจารณาว่าระบบบำบัดน้ำเสีย
บำบัดน้ำเสียแบบใช้อากาศและไม่ใช้อากาศ ความแตกต่างและข้อดีข้อเสีย
แหล่งที่มาของจุลินทรีย์ก็มีความสำคัญในการเลือกใช้เช่นกัน จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลัก คือ จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ราคาถูกที่มีอยู่ในธรรมชาติและจุลินทรีย์ที่ถูกเพาะเลี้ยงและพัฒนาให้มีความสามารถเฉพาะทาง จุลินทรีย์จากธรรมชาติมักมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี แต่บางครั้งอาจไม่สามารถกำจัดสารพิษบางชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่จุลินทรีย์
ที่ถูกพัฒนาโดยกระบวนการทางวิศวกรรมชีวภาพมักมีความสามารถเฉพาะทางในการบำบัดสารปนเปื้อนที่เฉพาะเจาะจง การเลือกใช้จุลินทรีย์ควรคำนึงถึงชนิดของน้ำเสียที่ต้องการบำบัดและความสามารถของจุลินทรีย์ในแต่ละสายพันธุ์การเลือกใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียยังต้องคำนึงถึงวิธีการเติมจุลินทรีย์เข้าสู่ระบบบำบัดด้วย โดยทั่วไป จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียสามารถเติมเข้าสู่ระบบได้ในรูปของน้ำหมักซึ่งแต่ละรูปแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน จุลินทรีย์ในรูปของน้ำหมักมักสามารถเริ่มต้นกระบวนการบำบัดได้รวดเร็ว
